5 ข้อศึกร้อนที่ต้องรู้ ก่อนการแข่งขันเกมพรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์

ตัดสินว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์?

1.เอฟเวอร์ตัน ปะทะศึกเดือด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่เรียกได้ว่ามีผลงานที่แย่อยู่บ่อยครั้ง ในล่าสุดนี้มีการบุกแล้วไปแพ้กับเบิร์นลี่ ทำให้มีแต่ความเจ็บปวด เมื่อมาในช่วงกันยายนในปีที่ผ่านมา เขาไม่สามารถที่ชนะทีมไหนได้เลย ในลีกสองของเกมติดต่อกัน

ทางทีมเรือใบสีฟ้า ได้ทำสถิติที่เหนือเกินความคาดหมายมาก ในสถิติของทีมเอฟเวอร์ตัน ในการแข่งขันเกมพรีเมียร์ลีก ทำไปได้ถึง 37 นัด แล้วมีท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เพียงแค่ 1 ทีม ที่จะเอาชนะได้มากกว่า ใน 38 นัด ทางบรูโน่ เฟอร์นันเดส มิดฟิลด์ตัวกลั่นของทีมแมนยู มีส่วนที่ได้ประตูใส่ทีมเอฟเวอร์ตันได้ 6 ลูก จากทั้งหมด 4 เกมลีก คือได้ 4 ประตู และอีก 2 แอสซิสต์ ในจำนวนที่ได้มีอยู่ 4 ลูก จาก 2 เกมที่ได้เล่นอยู่สนามกูดิสัน พาร์ค ใน 3 ประตู และอีก 1 แอสซิสต์ ในทีมปีศาจแดง นักเตะที่สามารถทำประตูได้ในสนามที่เล่นนี้ ในจำนวน 3 เกมติดต่อกัน คือนักเตะรุด ฟาน นิสเตลรอย เมื่อในเดือนธันวาคม ในปี 2001 จนถึงในเดือนกุมภาพันธ์ ในปี 2004 ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าไม่มีนักเตะคนใดในทีมเอฟเวอร์ตัน ที่ทำประตูได้เลย ณ สนามกูดิสัน พาร์ค ในช่วงฤดูกาลนี้ได้ มีแค่ริชาร์ ลิซอน ที่ทำได้ 3 ประตู แต่ว่าไม่สามารถที่จะยิงแต้มได้สักประตูเลย ตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมาแล้ว

2.อาร์เซนอล ปะทะศึกเดือด ไบร์ทตัน

ทีมไบร์ทตัน สามารถที่จะทำสถิติที่ไม่คาดคิด ที่ไม่เคยเอาชนะคู่แข่งในเกมแข่งขันพรีเมียร์ลีก ในช่วงเดือนเมษายน 2022 เล่นไปทั้งหมด 15 นัด ตีเสมอทั้งหมด 8 นัด และแพ้ไปอีก 7 นัด มีแต่ฮัลล์ ซิตี้ ไม่สามารถที่จะได้ชัยชนะเพียงแค่เดือนเดียวถึง 16 นัด หลังจากที่ไม่ชนะเดอะ ซีกัลส์ ใน 5 เกมติดได้ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ได้เลย แล้วทีมอาร์เซนอลไม่แพ้อีกในช่วง 3 เกมหลังสุดมา โดยมีผลชนะ 2 แต้ม และเสมอไป 1 แต้ม แล้วเขาได้เก็บคลีตชีตได้อยู่เรื่อยๆ ทางทีมเดอะกันเนอร์สได้แพ้แค่ 1 เกมเท่านั้น จากทั้งหมด 28 นัด ในเกมพรีเมียร์ลีก ชนะ 23 แต้ม และเสมอ 4 แต้ม แต่เมื่อในเดือนมิถุนายน ปี 2020 ไม่แพ้ทีมไหนใน 29 เกมที่เล่นติดต่อกัน หลังจากที่ได้แพ้แอสตัน วิลล่ามา 1-3 ประตูมาในเดือนสิงหาคม ปี 2013

ผลออกมาแล้วว่าเสมอ 0-0 ประตู เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเลยทีเดียว ที่ทีมไบรท์ตัน สามารถที่จะเก็บคลีนชีตต่อทีมอาร์เซนอลได้ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ปี 1982 ต่อจากนั้นไม่เคยเก็บคลีนชีตต่ออาร์เซนอลใน 2 นัดหลังมา

3.เซาธ์แฮมป์ตัน ปะทะศึกเดือด เชลซี

ในความพ่ายแพ้ที่ได้เจอมาอย่างศึกล่าสุดนี้ ในการแข่งเกมกับเบรนท์ฟอร์ด ในแต้ม 1-4 ประตู แต่ทีมสิงห์บลูไม่เคยแพ้ให้กับลีก 2 เกมติดกันแบบนี้ ไม่พอเท่านั้นกุนซือชาวเยอรมันของทีมที่ไม่พ่ายแพ้มาแล้ว 2 นัด ใน พรีเมียร์ลีกทั้งหมด 48 เกมด้วยกัน ในเกมแรกที่ได้เจอนั้น วอร์ด เพราส์ ได้มีชื่อที่ทำประตู และยังได้โดนไล่ออกแล้ว อย่างเดอะ เซนต์ คนใหม่นี้สามารถที่จะทำประตูได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือจะเยือนก็ตาม ในฤดูกาลเดียวคือ ริคกี้ ช่วงปี 2012-2013

4.แอสตัน วิลล่า ปะทะศึกเดือด สเปอร์ส

ทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้เอาชนะทีมแอสตัน วิลล่าได้สำเร็จ ณ วิลล่า พาร์ค รวมแล้ว 6 เกมด้วยกัน สถิติที่ทีมคลับไก่สามารถทำได้คือ 7 นัดติดต่อกันถือว่านานที่สุด โดยเป็นทีมแอสตัน วิลล่า และสามารถที่คว้าชัยชนะมาได้โดยตลอด อย่างแฮรี่ เคน ได้ทำคะแนนใส่ทีมแอสตัน วิลล่าได้ตลอดในช่วง 3 เกม ในปี 2014-15,2015-16 และ 2020-21 มี 1 ผู้เล่นคือ โรเมลู ลูกากู ในช่วงของปี 2013-2021 ที่บุกยิงประตู ณ วิลล่า พาร์ค ไปทั้งหมด 4 ครั้ง ในส่วนโอลลี่ วัตกิ้นส์ สามารถทำประตูได้ แล้วทีมแพ้ในลีกมีด้วยกัน 8 เกม นับมาตั้งแต่ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว โดยจะมีแกเร็ธ เบล และคริสติย็อง เบนเตเก้

5.แมนเชสเตอร์ซิตี้ ปะทะศึกเดือด ลิเวอร์พูล

เมื่อได้มีการพูดถึงชัยชนะ จะอดไม่ได้เลยว่าทีมลิเวอร์พูล จะทำให้ทีมฝ่ายตรงข้าม ได้อยู่ท้ายๆของตารางคะแนน เรียกได้ว่าเป็นการนับมาตั้งแต่ในต้นเดือนตุลาคม ในการเจอกันทั้ง 2 ทีม ที่อยู่หัวตารางการแข่งขัน ในการปะทะศึกเดือดในช่วงสิบวันของเกม เมื่อได้มีการติดตามพบแล้วว่าทีมที่อยู่รั้งท้าย สามารถที่จะเอาชนะไป นัด และแพ้เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น แล้วในช่วงของ 5 เกมหลังมานี้ ชัยชนะได้อยู่กับทีมอันดับที่ 2 แล้วเรียบร้อย

เรือใบสีฟ้า มีผลแพ้เพียงแค่ 1 เกมเท่านั้น จากทั้งหมด 12 เกมที่ได้เจอกับทางลิเวอร์พูลมา ผลคือชนะทั้งหมด 7 ครั้ง เสมออยู่ 4 ครั้ง การคว้าชัยชนะของลิเวอร์พูลมา เกมเดียวนี้เกิดในช่วงของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มาเป็นผู้จัดการทีมในช่วงปี 2015 โดยหงส์แดงได้คว้าชัยชนะของเกมลีกมาแล้ว 10 นัดติดต่อกัน ทำคลีนชีตได้อีกทั้งหมด 8 เกม โดยทางฟิล โฟเด้น ทำคะแนนให้กับทางหงส์แดง ได้ในช่วง 3 เกมหลังมานี้ ได้เป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่ยังประตูใส่เร้ด แมชชีน ได้ถึง 4 เกมติดต่อกันมา เป็นการทำต่อจากเจมี่ วาร์ดี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม : ผลบอลสด